วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก (HPV)
ไวรัส HPV คืออะไร?
HPV หรือ Human Papilloma Virus คือไวรัสชนิดหนึ่งที่สามารถติดต่อได้ผ่านการสัมผัสทางผิวหนัง โดยเฉพาะบริเวณเยื่อบุอวัยวะเพศ ปาก ลำคอ และทวารหนัก โดยส่วนใหญ่เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ แต่ก็สามารถติดต่อได้โดยไม่จำเป็นต้องมีการสอดใส่เสมอไป
HPV เป็นไวรัสที่พบได้บ่อยมากในคนทั่วไป โดยเฉพาะในช่วงวัยเริ่มมีเพศสัมพันธ์ และมีมากกว่า 100 สายพันธุ์ ซึ่งแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มหลัก :
- สายพันธุ์ความเสี่ยงต่ำ เช่น HPV 6 และ 11 เป็นสาเหตุหลักของ หูดหงอนไก่ (genital warts) ซึ่งไม่ก่อให้เกิดมะเร็ง
- สายพันธุ์ความเสี่ยงสูง เช่น HPV 16, 18, 31,
33, 45, 52, 58 ฯลฯ มีความสัมพันธ์โดยตรงกับการเกิดมะเร็งหลายชนิด โดยเฉพาะ :
- มะเร็งปากมดลูก (Cervical cancer) ซึ่งเป็นมะเร็งที่พบได้บ่อยในผู้หญิง
- มะเร็งช่องคลอด มะเร็งปากช่องคลอด
- มะเร็งทวารหนัก
- มะเร็งในลำคอและช่องปาก (โดยเฉพาะจากการมีเพศสัมพันธ์ทางปาก)
การติดเชื้อ HPV ส่วนใหญ่ในช่วงแรกมักไม่แสดงอาการ และในหลายกรณีร่างกายสามารถกำจัดเชื้อได้เองภายใน 1–2 ปี แต่หากเชื้อคงอยู่ในร่างกายนานเกินไป อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ในบริเวณที่ติดเชื้อ และนำไปสู่การเกิดมะเร็งในที่สุด
HPV เป็นไวรัสที่พบได้บ่อยมาก และสามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีนและตรวจคัดกรองสม่ำเสมอ
วัคซีน HPV มีกี่ชนิด? ต่างกันอย่างไร?
ในปัจจุบันวัคซีน HPV มีใช้กันอย่างแพร่หลาย
1. วัคซีน 2 สายพันธุ์ (Cervarix)
- ป้องกัน HPV สายพันธุ์ 16, 18 (ก่อมะเร็ง)
- เน้นป้องกันมะเร็งปากมดลูก
2. วัคซีน 4 สายพันธุ์ (Gardasil 4)
- ป้องกัน HPV สายพันธุ์ 6, 11, 16, 18
- เพิ่มการป้องกันหูดหงอนไก่ด้วย
3. วัคซีน 9 สายพันธุ์ (Gardasil 9)
- ป้องกัน HPV สายพันธุ์ 6, 11, 16, 18 + เพิ่มอีก 5 สายพันธุ์ความเสี่ยงสูง (31, 33, 45, 52, 58)
- ป้องกันมะเร็งและหูดหงอนไก่ได้ครอบคลุมมากที่สุด
ใครควรฉีดวัคซีน HPV?
- 👩👧 เด็กหญิงอายุ 9–14 ปี : ได้ผลดีที่สุดหากยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์
- 👩 ผู้หญิงอายุ 15–45 ปี : ยังคงสามารถฉีดเพื่อป้องกันสายพันธุ์ที่ยังไม่ติดได้
- 👩⚕️ หญิงอายุ 45–55 ปี : การฉีดในกลุ่มอายุนี้ยังได้ประโยชน์ โดยเฉพาะหากยังไม่มีพฤติกรรมเสี่ยงหรือตรวจไม่พบเชื้อ
- 👨 ผู้ชาย : สามารถฉีดเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อและลดความเสี่ยงมะเร็งทวารหนัก / มะเร็งองคชาติ / มะเร็งช่องปาก
ควรฉีดกี่เข็ม?
- อายุ < 15 ปี : ฉีด 2 เข็ม (ห่างกัน 6 เดือน)
- อายุ ≥ 15 ปี หรือมีภูมิคุ้มกันต่ำ : ฉีด 3 เข็ม (เดือนที่ 0, 2, 6)
หากติดเชื้อ HPV แล้ว ยังสามารถฉีดวัคซีนได้หรือไม่?
ฉีดได้ และแนะนำให้ฉีดในหลายกรณี
เนื่องจาก :
- HPV มีหลายสายพันธุ์
- วัคซีน เช่น Gardasil 9 ครอบคลุมถึง 9 สายพันธุ์ ทั้งสายพันธุ์ก่อมะเร็งและที่ก่อให้เกิดหูดหงอนไก่ ดังนั้น แม้จะติดเชื้อ HPV ไปบางสายพันธุ์แล้ว วัคซีนยังสามารถป้องกันสายพันธุ์อื่นที่ยังไม่ติดได้
- ภูมิคุ้มกันที่ได้จากการติดเชื้อธรรมชาติไม่ถาวร
- แม้ว่าร่างกายจะสามารถกำจัดเชื้อ HPV ได้เองในหลายกรณี (โดยเฉพาะในคนอายุน้อย) แต่การติดเชื้อแบบธรรมชาติ ไม่ได้ทำให้เกิดภูมิคุ้มกันถาวร ทำให้มีโอกาสกลับมาติดสายพันธุ์เดิมซ้ำได้อีก วัคซีนจึงยังมีประโยชน์
- วัคซีนกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดีกว่า
- วัคซีนมีความสามารถในการกระตุ้นภูมิคุ้มกันเฉพาะต่อไวรัสได้ดีกว่า และลดความเสี่ยงของการเกิดการติดเชื้อเรื้อรังที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของเซลล์ในระยะยาว
มะเร็งปากมดลูกป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน HPV
ควบคู่กับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกอย่างสม่ำเสมอ